13 ม.ค. 2024 เวลา 11:22 • ข่าว

ตอนที่ 47 เหตุที่คณะกรรมการ ป.ป.ช.หยิบเรื่องผู้เสียหายขึ้นมาดำเนินการด่วนที่สุด

ผู้เสียหายได้ยื่นฟ้องคดีเมื่อวันที่ 11 พ.ค.2565 เป็นคดีหมายเลขดำ อท 65/2565 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบมีคำสั่งรับคำฟ้องโจทก์ไว้ในส่วนของจำเลยที่ 1 ถึงที่ 10 ไว้ไต่สวนมูลฟ้องเมื่อวันที่ 15 พ.ค. 2566 หัวหน้าพนักงานไต่สวน สำนักงานคณะกรรมการ ป.ป.ช.ออกหนังสือด่วนที่สุดเพื่อเรียกผู้เกี่ยวข้องไปให้ปากคำในวันเดียวกัน ทั้งที่มิได้ดำเนินการใดๆกับหนังสือร้องเรียนของผู้เสียหายมามาเป็นเวลา 3 ปี 4 เดือน
คำสั่งศาลรับคำฟ้องของโจทก์ในส่วนจำเลยที่ 1 ถึงที่ 10  ลว.15 พ.ค.2566
แต่ผู้เสียหายได้ดำเนินการทำหนังสือขอถอนเรื่องร้องเรียนออกจากการพิจารณาของ คณะกรรมการ ป.ป.ช. เพื่อประสงค์ให้ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบพิจารณาคดีต่อไป พร้อมแนบรายงานกระบวนพิจารณาคำสั่งรับฟ้องและคำฟ้องประกอบการพิจารณา แต่พนักงานสอบสวนดำเนินการไต่สวนทำสำนวนจนเสร็จสิ้นเพื่อ เสนอคณะกรรมการ ป.ป.ช. ซึ่งสามารดำเนินการต่อไปได้ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. ๒๕๖๑ มาตรา 59 วรรคท้าย
หากพิจารณานิยามความหมายในข้อ 4 จะพบว่า แต่การไต่สวนของหัวหน้าพนักงานไต่สวนจะดำเนินการได้ต้องได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการ ป.ป.ช.มอบหมาย แสดงให้เห็นว่าคณะกรรมการ ป.ป.ช ได้มอบหมายให้ดำเนินการตรวจสอบและไต่สวนเรื่องร้องเรียนของผู้เสียหายในวันเดียวกับที่ศาลมีคำสั่งรับคำฟ้องอย่างด่วนที่สุด ตามที่ปรากฏในหนังสือหนังสือด่วนที่สุดลงวันที่ 15 พ.ค.66
หนังสือสำนักงาน ป.ป.ช.ด่วนที่สุด ลว.15 พ.ค.66
เนื่องจาก ระยะเวลาที่คณะกรรมการ ป.ป.ช.มอบหมายให้หัวหน้าพนักงานไต่สวนดำเนินการนั้น เกินกำหนดที่ระเบียบคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติว่าด้วยการตรวจสอบและไต่สวน พ.ศ.2561 ข้อ 33 วรรคท้ายแห่ง กำหนดไว้ให้ดำเนินการตรวจสอบให้แล้วเสร็จภายใน 180 วันนับแต่วันที่ลงทะเบียนรับเรื่อง ขยายระยะเวลาได้ไม่เกิน 90 วัน และขยายได้ไม่เกิน 2 ครั้ง คือ 180 วัน หากยังดำเนินการไม่เสร็จต้องเสนอเหตุผล และความจำเป็นต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช.เพื่อพิจารณามีมติเห็นสมควรต่อไป
กฎหมายที่เกี่ยวข้อง
การไต่สวนของหัวหน้าพนักงานไต่สวนในครั้งนี้ คณะกรรมการต้องมีมติเห็นสมควรตามความจำเป็นและต้องมีเหตุผลประกอบในการทำคำสั่งให้ดำเนินการไต่สวนด่วนที่สุดในครั้งนี้ ไม่ทราบได้ว่า คณะกรรมการ ป.ป.ชจะเหตุผลที่เป็นความจำเป็นนั้นคืออะไร แต่เหตุผลหนึ่งที่พอทำให้เกิดความชัดเจน คือ จำเลยที่ 9 ลงสมัครคณะกรรมการ ป.ป.ช.
โดยสำนักงาน ป.ป.ช.รับสมัคร กรรมการ ป.ป.ช.(แทนนางสาว....) เมื่อวันที่ 10-24 ก.ค.2566 ภายหลังจากที่ศาลคดีอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบมีคำสั่งรับคำฟ้องของโจทก์ และจำเลยที่ 9 ได้ลงสมัคร ในครั้งนี้
แต่ขั้นตอนในการสรรหา กรรมการ ป.ป.ช.มีหลายขั้นตอน ได้แก่
(1) ขั้นตอนการผู้สมัครถูกกำหนดด้วยคุณสมบัติ
(2) ขั้นตอนรับฟังข้อมูล สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาจะประกาศรายชื่อบุคคลที่เข้ารับการสรรหาให้ประชาชนทราบเพื่อรับฟังข้อมูลเกี่ยวกับความเหมาะสมของผู้เข้ารับการสรรหา
(3) ขั้นตอนการตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้าม สำนักงานเลขาวุฒิสภา ต้องทำการตรวจสอลประวัติและพฤติการณ์ของผู้รับสมัครเข้ารับการสรรหา
ซึ่งคุณสมบัติหรือลักษณะต้องห้ามของผู้สมัครเข้ารับการสรรหาให้เป็นอำนาจหน้าที่ของ คณะกรรมการ ป.ป.ชซ.เป็นผู้วินิจฉัย และให้ถือเป็นที่สุด
(4) ขั้นตอนการที่คณะกรรมการสรรหาพิจารณาจากคุณสมบัติ ประสบการณ์ การสัมภาษณ์และแสดงวิสัยทัศน์ และลงคะแนนคัดเลือกบุคคล
(5) ขั้นตอนเสนอให้วุฒิสภารับรอง เพื่อนำขึ้นทูลเกล้าต่อไป
มาดูกันต่อไปว่าการสรรหากรรมการ ป.ป.ช.ในครั้งนี้ว่า ในแต่ละขั้นตอนจะดำเนินการกันอย่างไรบ้าง
โปรดกดติดตามเพจ
มาดูกันว่าเรื่องจะบานปลายใหญ่โตแค่ไหน กดอ่านได้ที่
เรื่องเล็กๆ...สู่ปัญหาการใช้และตีความที่ไม่เป็นธรรม บทนำ
ตอนที่ 1 ความคุ้นชินกับการกระทำผิด
ตอนที่ 2 ร้องเรียนเจ้าหน้าที่ที่ให้ความช่วยเหลือ
ตอนท่ 3 รายงานไม่ตรงกับข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น
ตอนที่ 4 การแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนขึ้นมาทำงานซ้ำซ้อน
ตอนที่ 5 การไม่ดำเนินการตามหนังสือคัดค้านและร้องเรียนเพิ่มเติม
ตอนที่ 6 ผู้ว่าราชการจังหวัดตีความว่าผู้ร้องเรียนไม่ใช่คู่กรณี
ตอนที่ 7 การร้องขอความเป็นธรรมต่อกระทรวงสาธารณสุข
ตอนที่ 8 ผลการสืบสวนข้อเท็จจริงของคณะกรรมการสืบสวนกรณีนางหนึ่ง
ตอนที่ 9 การสอบสวนวินัยรายแรงโดยมิได้ใช้ผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงของโรงพยาบาล
ตอนที่ 10 ผลที่เกิดขึ้นจากรายงานการสอบสวนวินัยร้ายแรงกรณีนางหนึ่ง
ตอนที่ 11 สำนักงานสาธารณสุขให้ความช่วยเหลือนางสอง
ตอนที่ 12 ผลการสอบวินัยกรณีนางสอง
ตอนที่ 13 ปัญหาการไม่ปฏิบัติตามคำสั่งกรณีที่ 1
ตอนที่ 14 การไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง-ชี้แจงนอกประเด็น กรณีที่ 2
ตอนที่ 15 การไม่ปฏิบัติตามคำสั่งและชี้แจงนอกประเด็น กรณีที่ 3
ตอนที่ 16 บทสรุปขั้นตอนการดำเนินการทางวินัยที่ไม่เป็นธรรม
ตอนที่ 17 ขั้นตอนการขอข้อมูลข่าวสารของทางราชการ
ตอนที่ 18 จังหวัดและสำนักงานสาธารณสุขไม่ยอมเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร
ตอนที่ 19 จังหวัดยอมเปิดเผยข้อมูลข่าวสารเพียงบางส่วน
ตอนที่ 20 นพ.สสจ.แจ้งต่อคณะกรรมการไม่ตรงกับข้อเท็จจริง
ตอนที่ 21 ผู้เสียหายทำหนังสือโต้แย้งการพิจารณาของคณะกรรมการข้อมูลข่าวสาร
ตอนที่ 22 นพ.สสจ.ชี้แจงว่า ผวจ.มิได้ทำดคำสั่งในหนังสือที่ร้องขอทั้ง 4 ฉบับ
ตอนที่ 23 คณะอนุกรรมการมีหนังสือถึงผู้สียหายตามที่จังหวัดชี้แจง
ตอนที่ 24 การตรวจสอบความีอยู่ของข้อมูลข่าวสาร
ตอนที่ 25 จังหวัดชี้แจงต่อคณะกรรมการไม่ตรงกับข้อเท็จจริง
ตอนที่ 26 ติดตามผลการตรวจสอบข้อมูลข่าวสารที่ร้องขอ
ตอนที่ 27 ผลการตรวจสอบความมีอยู่ของข้อมูลข่าวสารที่ร้องขอ
ตอนที่ 28 ขอทราบขั้นตอนการเสนอหนังสือทั้ง 5 ฉบับที่ร้องขอ
ตอนที่ 29 ปัญหาการบังคับใช้กฎหมายใยขั้นตอนการขอข้อมูลข่าวสาร
ตอนที่ 30 ปัญหาการบังคับใช้กฎหมายของหน่วยงานสาธารณสุข
ตอนที่ 31 ปัญหาการบังคับใช้กฎหมายของจังหวัด
ตอนที่ 32 ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการปฏิบัติรการของจังหวัด
ตอนที่ 33 เหตุแห่งการร้องขอความเป็นธรรมในระดับกระทรวง
ตอนที่ 34 การร้องเรียนขอความเป็นธรรมในระดับกระทรวง
ตอนที่ 35 การบังคับใช้กฎหมายในระดับกระทรวง
ตอนที่ 36 ผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงของผู้ว่าราชการจังหวัด
ตอนที่ 37 บทวิเคราะห์การบังคับใช้กฎหมายของเจ้าหน้าที่รัฐ
ตอนที่ 38 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ
ตอนที่ 39 การฟ้องคดีต่อศาลทุจริตและประพฤติมิชอบ
ตอนที่ 40 ผลของการออกหนังสือด่วนที่สุดเพื่อไต่สวนเรื่องร้องเรียนของผู้เสียหาย
ตอนที่ 41 ผู้เสียหายทำหนังสือขอถอนเรื่องร้องเรียนจากคณะกรรมการ ป.ป.ช.
ตอนที่ 42 บทวิเคราะห์การดำเนินเรื่องร้องเรียนของคณะกรรมการ ป.ป.ช.
ตอนที่ 43 อัยการเข้ามาเป็นทนายแก้ต่างให้กับจำเลยทั้ง 9 คน
ตอนที่ 44 การทำหนังสือถึงอัยการสูงสุดเพื่อติดตามเรื่อง
ตอนที่ 45 เหตุผลของอัยการในการรับเป็นทนายแก้ต่างให้จำเลย
ตอนที่ 46 ปัญหาที่เกิดขึ้นในระหว่างการฟ้องคดีต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ
ตอนที่ 47 เหตุที่คณะกรรมการ ป.ป.ช.หยิบเรื่องผู้เสียหายขึ้นมาดำเนินการด่วนที่สุด
ตอนที่ 48 จำเลยที่ 9 ได้รับการสรรหาให้ดำรงตำแหน่ง คณะกรรมการ ป.ป.ช.
ตอนที่ 49 ความไม่ชอบด้วยกฎหมายจากใบสมัครของจำเลยที่ 9
ตอนที่ 50 การตรวจสอบความประพฤติและจริยธรรมของหน่วยงานรัฐ
โฆษณา