14 ม.ค. 2024 เวลา 12:20 • ข่าว

ตอนที่ 49 ความไม่ชอบด้วยกฎหมายจากใบสมัครของจำเลยที่ 9

ขั้นตอนการสมัคร คณะกรรมการ ป.ป.ช.ในระหว่างวันที่ 10-24 ก.ค.2566 ผู้สมัครจะต้องเป็นผู้กรอกใบสมัครด้วยตนเอง โดยวันสมัครเกิดขึ้นภายหลังที่ศาลคดีอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 มีคำสั่งรับคำฟ้องโจทก์ในส่วนของจำเลยที่ 1 ถึงที่ 10 ไว้ไต่สวนมูลฟ้อง ประมาณ 2 เดือน ซึ่งในใบสมัคร (ตามรูปภาพข้างล่าง) ข้อ 10 ระบุว่า “เคยถูกตั้งกรรมการสอบสวนทางวินัย หรือเคยถูกลงโทษทางวินัย หรือมีคดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล หรือเคยถูกดำเนินคดีในเรื่องใดๆ หรือเคยถูกฟ้องร้องเป็นคู่ความในคดีอาญา หรือคดีล้มละลายหรือไม่
1
อย่างไร (เพื่อประโยชน์นการตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ และพฤติกรรมทางจริยธรรมของผู้สมัครเข้ารับการสรรหาเป็นบุคคลผู้สมควรได้รับการแต่งตั้งเป็นกรรมการรป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ)
สำหรับใบสมัครในข้อ 10 นี้ ไม่อาจทราบว่า จำเลยที่ 9 เลือกที่จะระบุว่า “ไม่เคย” หรือ “เคย (โปรดระบุรายละเอียด)” ทั้งนี้ ข้อมูลในใบสมัครจะเป็นคำตอบที่ที่สุด ไม่ว่าจะเลือกระบุข้อใด ล้วนส่งผลทางกฎหมายทั้งสิ้น โปรดดูฉบับเต็ม
ใบสมัคร คณะกรรมการ ป.ป.ช.ที่จำเลยที่ 9 ต้องให้ข้อมูลและรับรองรายละเอียด
ถ้าระบุว่า “เคย” และระบุรายละเอียดว่า “อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 ตามคดีหมายเลขดำที่ อท 65/2565 และคดีหมายเลขแดงที่ อท 5/2566 ผลทางกฎหมายคือ เหตุใดคณะกรรมการสรรหา จึงเลือกจำเลยที่ 9 เป็นคณะกรรมกรร ป.ป.ช.ทั้งที่อยู่ในระหว่างการพิจารณาคดีของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ และเหตุใดจึงมั่นใจว่าจะเลยที่ 9 มิได้กระทำความผิดทั้งที่ศาลยังมิได้พิจารณาพิพากษา ทำให้ โจทก์ย่อมคลางแคลงใจได้ว่าคดีอาจถูกแทรกแซงได้ และผู้สมัครรายอื่นต้องรู้สึกถึงความไม่เป็นธรรมเช่นกัน
ถ้าระบุว่า “ไม่เคย” ย่อมเป็นการปกปิดข้อเท็จจริงหรือให้ข้อมูลไม่ตรงกับข้อเท็จจริง การรับรองข้อมูลและการให้ความยินยอมในการสมัครเข้ารับการสรรหา ส่วนที่ 2 ระบุไว้ชัดเจนว่า ในกรณีที่ตรวจพบว่า ข้อความข้างต้นนี้เป็นเท็จและก่อให้เกิดความเสียหายแก่คณะกรรมการสรรหากรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือสำนักเลขาธิการวุฒิสภาหรือผู้อื่น “ข้าพเจ้าถือเป็นความรับผิดชอบของข้าพเจ้าทั้งสิ้น” และ
ส่วนที่ ๓ การให้ความยินยอมในการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อวัตถุประสงค์ในการตรวจสอบคุณสมบัติ ลักษณะต้องห้าม ประวัติ ความประพฤติ และพฤติกรรมทางจริยธรรมจากส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการสรรหาผู้สมควรได้รับการแต่งตั้งเป็นกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ
นอกจากนี้ ข้อความท้ายสุดของใบสมัคร ระบุคำเตือนไว้ชัดเจนว่า
“ประธานกรรมการสรรหาและกรรมการสรรหาเป็นเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา ตามมาตรา ๑๒ วรรคท้าย แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 256๑ ดังนั้น การให้ข้อมูลอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงาน ซึ่งอาจทำให้ผู้อื่น หรือประชาชนเสียหาย อาจเป็นความผิดฐานแจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงาน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 137 ซึ่งต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”
เรื่องนี้ คำตอบมีความชัดเจนอยู่ที่ใบสมัครของจำเลยที่ 9 และ หลักเกณฑ์และวิธีการสรรหาบุคคลผู้สมควรได้รับการแต่งตั้ง เป็นกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ข้อ 3.2 (2) กำหนดว่า ผู้สมัครรายใดให้ข้อมูลในใบสมัครที่ไม่ตรงกับความเป็นจริงหรือปกปิดข้อความจริง ที่ควรแจ้งให้ทราบ อาจไม่ได้รับการคัดเลือก โปรดดูฉบับเต็มhttps://www.senate.go.th/assets/portals/1/news/13396/2_13396.pdf
หลักเกณฑ์และวิธีการสรรหาบุคคลผู้สมควรได้รับการแต่งตั้งเป็นกรรมการป.ป.ช.
โปรดกดติดตามเพจ
มาดูกันว่าเรื่องจะบานปลายใหญ่โตแค่ไหน กดอ่านได้ที่
เรื่องเล็กๆ...สู่ปัญหาการใช้และตีความที่ไม่เป็นธรรม บทนำ
ตอนที่ 1 ความคุ้นชินกับการกระทำผิด
ตอนที่ 2 ร้องเรียนเจ้าหน้าที่ที่ให้ความช่วยเหลือ
ตอนท่ 3 รายงานไม่ตรงกับข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น
ตอนที่ 4 การแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนขึ้นมาทำงานซ้ำซ้อน
ตอนที่ 5 การไม่ดำเนินการตามหนังสือคัดค้านและร้องเรียนเพิ่มเติม
ตอนที่ 6 ผู้ว่าราชการจังหวัดตีความว่าผู้ร้องเรียนไม่ใช่คู่กรณี
ตอนที่ 7 การร้องขอความเป็นธรรมต่อกระทรวงสาธารณสุข
ตอนที่ 8 ผลการสืบสวนข้อเท็จจริงของคณะกรรมการสืบสวนกรณีนางหนึ่ง
ตอนที่ 9 การสอบสวนวินัยรายแรงโดยมิได้ใช้ผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงของโรงพยาบาล
ตอนที่ 10 ผลที่เกิดขึ้นจากรายงานการสอบสวนวินัยร้ายแรงกรณีนางหนึ่ง
ตอนที่ 11 สำนักงานสาธารณสุขให้ความช่วยเหลือนางสอง
ตอนที่ 12 ผลการสอบวินัยกรณีนางสอง
ตอนที่ 13 ปัญหาการไม่ปฏิบัติตามคำสั่งกรณีที่ 1
ตอนที่ 14 การไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง-ชี้แจงนอกประเด็น กรณีที่ 2
ตอนที่ 15 การไม่ปฏิบัติตามคำสั่งและชี้แจงนอกประเด็น กรณีที่ 3
ตอนที่ 16 บทสรุปขั้นตอนการดำเนินการทางวินัยที่ไม่เป็นธรรม
ตอนที่ 17 ขั้นตอนการขอข้อมูลข่าวสารของทางราชการ
ตอนที่ 18 จังหวัดและสำนักงานสาธารณสุขไม่ยอมเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร
ตอนที่ 19 จังหวัดยอมเปิดเผยข้อมูลข่าวสารเพียงบางส่วน
ตอนที่ 20 นพ.สสจ.แจ้งต่อคณะกรรมการไม่ตรงกับข้อเท็จจริง
ตอนที่ 21 ผู้เสียหายทำหนังสือโต้แย้งการพิจารณาของคณะกรรมการข้อมูลข่าวสาร
ตอนที่ 22 นพ.สสจ.ชี้แจงว่า ผวจ.มิได้ทำดคำสั่งในหนังสือที่ร้องขอทั้ง 4 ฉบับ
ตอนที่ 23 คณะอนุกรรมการมีหนังสือถึงผู้สียหายตามที่จังหวัดชี้แจง
ตอนที่ 24 การตรวจสอบความีอยู่ของข้อมูลข่าวสาร
ตอนที่ 25 จังหวัดชี้แจงต่อคณะกรรมการไม่ตรงกับข้อเท็จจริง
ตอนที่ 26 ติดตามผลการตรวจสอบข้อมูลข่าวสารที่ร้องขอ
ตอนที่ 27 ผลการตรวจสอบความมีอยู่ของข้อมูลข่าวสารที่ร้องขอ
ตอนที่ 28 ขอทราบขั้นตอนการเสนอหนังสือทั้ง 5 ฉบับที่ร้องขอ
ตอนที่ 29 ปัญหาการบังคับใช้กฎหมายใยขั้นตอนการขอข้อมูลข่าวสาร
ตอนที่ 30 ปัญหาการบังคับใช้กฎหมายของหน่วยงานสาธารณสุข
ตอนที่ 31 ปัญหาการบังคับใช้กฎหมายของจังหวัด
ตอนที่ 32 ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการปฏิบัติรการของจังหวัด
ตอนที่ 33 เหตุแห่งการร้องขอความเป็นธรรมในระดับกระทรวง
ตอนที่ 34 การร้องเรียนขอความเป็นธรรมในระดับกระทรวง
ตอนที่ 35 การบังคับใช้กฎหมายในระดับกระทรวง
ตอนที่ 36 ผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงของผู้ว่าราชการจังหวัด
ตอนที่ 37 บทวิเคราะห์การบังคับใช้กฎหมายของเจ้าหน้าที่รัฐ
ตอนที่ 38 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ
ตอนที่ 39 การฟ้องคดีต่อศาลทุจริตและประพฤติมิชอบ
ตอนที่ 40 ผลของการออกหนังสือด่วนที่สุดเพื่อไต่สวนเรื่องร้องเรียนของผู้เสียหาย
ตอนที่ 41 ผู้เสียหายทำหนังสือขอถอนเรื่องร้องเรียนจากคณะกรรมการ ป.ป.ช.
ตอนที่ 42 บทวิเคราะห์การดำเนินเรื่องร้องเรียนของคณะกรรมการ ป.ป.ช.
ตอนที่ 43 อัยการเข้ามาเป็นทนายแก้ต่างให้กับจำเลยทั้ง 9 คน
ตอนที่ 44 การทำหนังสือถึงอัยการสูงสุดเพื่อติดตามเรื่อง
ตอนที่ 45 เหตุผลของอัยการในการรับเป็นทนายแก้ต่างให้จำเลย
ตอนที่ 46 ปัญหาที่เกิดขึ้นในระหว่างการฟ้องคดีต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ
ตอนที่ 47 เหตุที่คณะกรรมการ ป.ป.ช.หยิบเรื่องผู้เสียหายขึ้นมาดำเนินการด่วนที่สุด
ตอนที่ 48 จำเลยที่ 9 ได้รับการสรรหาให้ดำรงตำแหน่ง คณะกรรมการ ป.ป.ช.
ตอนที่ 49 ความไม่ชอบด้วยกฎหมายจากใบสมัครของจำเลยที่ 9
ตอนที่ 50 การตรวจสอบความประพฤติและจริยธรรมของหน่วยงานรัฐ
โฆษณา