14 ม.ค. 2024 เวลา 08:16 • ข่าว

ตอนที่ 48 จำเลยที่ 9 ได้รับการสรรหาให้ดำรงตำแหน่ง คณะกรรมการ ป.ป.ช.

ต่อมาได้ทราบว่า ผวจ.ซึ่งเป็นจำเลยที่ 9 และกำลังถูกฟ้องคดีอาญาในศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ คดีหมายเลขดำที่ อท 65/2565 และคดีหมายเลขแดงที่ อท 5/2566 ได้รับการสรรหาให้เป็น “กรรมการ ป.ป.ช” และวุฒิสภาประชุมลับพิจารณารายงานของคณะกรรมาธิการสามัญเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ และพฤติกรรมทางจริยธรรมของ จำเลยที่ 9 ซึ่งเป็นบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (กรรมการ ป.ป.ช.)
ในที่สุด วุฒิสภาลงมติเห็นชอบให้จำเลยที่ 9 เป็นบุคคลผู้สมควรได้รับการแต่งตั้งเป็น "กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ" ทั้งที่ มีคดีอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 1 และศาลนัดฟังคำสั่งไต่สวนมูลฟ้องในวันที่ 24 มกราคม 2566
คำสั่งศาลนัดฟังคำสั่งหรือคำพิพากษา(ชั้นไต่สวนมูลฟ้อง)
เหตุผลที่คณะกรรมการ ป.ป.ช หยิบเรื่องของผู้เสียหายขึ้นมาดำเนินการด่วนที่สุด ในวันที่ 15 พ.ค.2566 ซึ่งเป็นวันเดียวกันกับที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 1 มีคำสั่งรับคำฟ้องของโจทก์ในส่วนของจำเลยที่ 1 ถึงที่ 10 ไว้ไต่สวนมูลฟ้อง ทั้งที่ เพิกเฉย มิได้ดำเนินการใดๆมากว่า 3 ปี ซึ่งเกินกำหนดระยะเวลาในการดำเนินการตามที่กำหนดไว้ โดยมีหนังสือด่วนที่สุด ลว15 พ.ค.66 เรียกบุคคลที่เกี่ยวข้องไปให้ปากคำนั้นจะทำได้ต้องใช้มติของคณะกรรมการ ป.ป.ช.ที่เห็นว่ามีความจำเป็นและมีเหตุผลที่สมควร
ตามที่บทบัญญัติในระเบียบคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติว่าด้วยการตรวจสอบและไต่สวน พ.ศ. ๒๕๖๑ ข้อ 33 วรรคท้าย ดังนั้น คงปฏิเสธไม่ได้ว่าเหตุผลที่สำคัญ คือ ให้ความช่วยเหลือ จำเลยที่ 9 ซึ่งกำลังเป็น “ว่าคณะกรรมการ ป.ป.ช.คนใหม่” (ทั้งที่ วันที่ 15 พ.ค.2566 ยังมิได้มีการเปิดรับสมัครแต่อย่างใด)
เมื่อได้รับการสรรหาให้เป็น "คณะกรรมการ ป.ป.ช." ข้อบังคับ การประชุมวุฒิสภา พ.ศ. 2562 หมวด 5 การพิจารณาให้บุคคลดำรงตำแหน่งตามบทบัญญัติของ รัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย ข้อ 105 กำหนดให้วุฒิสภาตั้งคณะกรรมาธิการสามัญขึ้นคณะหนึ่ง มีจำนวนไม่เกินสิบห้าคน เพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ และพฤติกรรมทางจริยธรรมของบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อ ให้ดำรงตำแหน่งนั้น รวมทั้งรวบรวมข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานอันจำเป็นสำหรับตำแหน่งนั้น เป็นกรณี ๆ ไป
กฎหมายที่เกี่ยวข้อง
เหตุใดคณะกรรมาธิการสามัญ ซึ่งทำหน้าที่ตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ และพฤติกรรมทางจริยธรรมของจำเลยที่ 9 จึงไม่ทราบว่าจำเลยที่ 9 อยู่ในระหว่างการพิจารณาคดีของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 1 เนื่องจากคณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้หยิบเรื่องของผู้เสียหายขึ้นมาดำเนินการไต่สวนในวันเดียวกับที่ศาลมีคำสั่งรับคำฟ้องของโจทก์ในส่วนของจำเลยที่ 1 ถึงที่ 10 และผู้เสียหายหรือโจทก์ ได้มีหนังสือ ลว.23 พ.ค.2566 ถึง เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช.ขอถอนเรื่องร้องเรียนฉบับ ลงวันที่ 23 มค.2563 และ ลว.1 เม.ย.2563
หลักฐานที่แสดงให้เห็นว่าเลขาธิการคณะกรรม ป.ป.ช.ทราบว่าจำเลยที่ 9 อยุู่ในระหว่างการพิจารณาคดีของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1
โดยหนังสือฉบับนี้ระบุชัดเจนว่าเพื่อประสงค์ให้เข้าสู่กระบวนพิจารณาคดีของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 โดยมีพนักงานไต่สวนลงนามรับหนังสือฉบับดังกล่าว
สำนักงานคณะกรรมการ ป.ป.ช คงไม่อาจปฏิเสธการรับรู้ถึงข้อมูลว่า จำเลยที่ 9 อยู่ในระหว่างการพิจารณาคดีของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 คดีหมายเลขดำที่ อท 65/2565 และคดีหมายเลขแดงที่ อท 5/2566 ซึ่งศาลมีคำสั่งนัดฟังคำสั่งในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง ในวันที่ 24 มกราคม 2567 นี้
โปรดกดติดตามเพจ
มาดูกันว่าเรื่องจะบานปลายใหญ่โตแค่ไหน กดอ่านได้ที่
เรื่องเล็กๆ...สู่ปัญหาการใช้และตีความที่ไม่เป็นธรรม บทนำ
ตอนที่ 1 ความคุ้นชินกับการกระทำผิด
ตอนที่ 2 ร้องเรียนเจ้าหน้าที่ที่ให้ความช่วยเหลือ
ตอนท่ 3 รายงานไม่ตรงกับข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น
ตอนที่ 4 การแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนขึ้นมาทำงานซ้ำซ้อน
ตอนที่ 5 การไม่ดำเนินการตามหนังสือคัดค้านและร้องเรียนเพิ่มเติม
ตอนที่ 6 ผู้ว่าราชการจังหวัดตีความว่าผู้ร้องเรียนไม่ใช่คู่กรณี
ตอนที่ 7 การร้องขอความเป็นธรรมต่อกระทรวงสาธารณสุข
ตอนที่ 8 ผลการสืบสวนข้อเท็จจริงของคณะกรรมการสืบสวนกรณีนางหนึ่ง
ตอนที่ 9 การสอบสวนวินัยรายแรงโดยมิได้ใช้ผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงของโรงพยาบาล
ตอนที่ 10 ผลที่เกิดขึ้นจากรายงานการสอบสวนวินัยร้ายแรงกรณีนางหนึ่ง
ตอนที่ 11 สำนักงานสาธารณสุขให้ความช่วยเหลือนางสอง
ตอนที่ 12 ผลการสอบวินัยกรณีนางสอง
ตอนที่ 13 ปัญหาการไม่ปฏิบัติตามคำสั่งกรณีที่ 1
ตอนที่ 14 การไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง-ชี้แจงนอกประเด็น กรณีที่ 2
ตอนที่ 15 การไม่ปฏิบัติตามคำสั่งและชี้แจงนอกประเด็น กรณีที่ 3
ตอนที่ 16 บทสรุปขั้นตอนการดำเนินการทางวินัยที่ไม่เป็นธรรม
ตอนที่ 17 ขั้นตอนการขอข้อมูลข่าวสารของทางราชการ
ตอนที่ 18 จังหวัดและสำนักงานสาธารณสุขไม่ยอมเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร
ตอนที่ 19 จังหวัดยอมเปิดเผยข้อมูลข่าวสารเพียงบางส่วน
ตอนที่ 20 นพ.สสจ.แจ้งต่อคณะกรรมการไม่ตรงกับข้อเท็จจริง
ตอนที่ 21 ผู้เสียหายทำหนังสือโต้แย้งการพิจารณาของคณะกรรมการข้อมูลข่าวสาร
ตอนที่ 22 นพ.สสจ.ชี้แจงว่า ผวจ.มิได้ทำดคำสั่งในหนังสือที่ร้องขอทั้ง 4 ฉบับ
ตอนที่ 23 คณะอนุกรรมการมีหนังสือถึงผู้สียหายตามที่จังหวัดชี้แจง
ตอนที่ 24 การตรวจสอบความีอยู่ของข้อมูลข่าวสาร
ตอนที่ 25 จังหวัดชี้แจงต่อคณะกรรมการไม่ตรงกับข้อเท็จจริง
ตอนที่ 26 ติดตามผลการตรวจสอบข้อมูลข่าวสารที่ร้องขอ
ตอนที่ 27 ผลการตรวจสอบความมีอยู่ของข้อมูลข่าวสารที่ร้องขอ
ตอนที่ 28 ขอทราบขั้นตอนการเสนอหนังสือทั้ง 5 ฉบับที่ร้องขอ
ตอนที่ 29 ปัญหาการบังคับใช้กฎหมายใยขั้นตอนการขอข้อมูลข่าวสาร
ตอนที่ 30 ปัญหาการบังคับใช้กฎหมายของหน่วยงานสาธารณสุข
ตอนที่ 31 ปัญหาการบังคับใช้กฎหมายของจังหวัด
ตอนที่ 32 ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการปฏิบัติรการของจังหวัด
ตอนที่ 33 เหตุแห่งการร้องขอความเป็นธรรมในระดับกระทรวง
ตอนที่ 34 การร้องเรียนขอความเป็นธรรมในระดับกระทรวง
ตอนที่ 35 การบังคับใช้กฎหมายในระดับกระทรวง
ตอนที่ 36 ผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงของผู้ว่าราชการจังหวัด
ตอนที่ 37 บทวิเคราะห์การบังคับใช้กฎหมายของเจ้าหน้าที่รัฐ
ตอนที่ 38 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ
ตอนที่ 39 การฟ้องคดีต่อศาลทุจริตและประพฤติมิชอบ
ตอนที่ 40 ผลของการออกหนังสือด่วนที่สุดเพื่อไต่สวนเรื่องร้องเรียนของผู้เสียหาย
ตอนที่ 41 ผู้เสียหายทำหนังสือขอถอนเรื่องร้องเรียนจากคณะกรรมการ ป.ป.ช.
ตอนที่ 42 บทวิเคราะห์การดำเนินเรื่องร้องเรียนของคณะกรรมการ ป.ป.ช.
ตอนที่ 43 อัยการเข้ามาเป็นทนายแก้ต่างให้กับจำเลยทั้ง 9 คน
ตอนที่ 44 การทำหนังสือถึงอัยการสูงสุดเพื่อติดตามเรื่อง
ตอนที่ 45 เหตุผลของอัยการในการรับเป็นทนายแก้ต่างให้จำเลย
ตอนที่ 46 ปัญหาที่เกิดขึ้นในระหว่างการฟ้องคดีต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ
ตอนที่ 47 เหตุที่คณะกรรมการ ป.ป.ช.หยิบเรื่องผู้เสียหายขึ้นมาดำเนินการด่วนที่สุด
ตอนที่ 48 จำเลยที่ 9 ได้รับการสรรหาให้ดำรงตำแหน่ง คณะกรรมการ ป.ป.ช.
ตอนที่ 49 ความไม่ชอบด้วยกฎหมายจากใบสมัครของจำเลยที่ 9
ตอนที่ 50 การตรวจสอบความประพฤติและจริยธรรมของหน่วยงานรัฐ
โฆษณา