10 ม.ค. 2024 เวลา 09:14 • ข่าว

ตอนที่ 44 การทำหนังสือถึงอัยการสูงสุดเพื่อติดตามเรื่อง

เมื่อเวลาผ่านไป 1 เดือน ทางอัยการสูงสุดมิได้ดำเนินการใดๆ ผู้เสียหายจึงหนังสือ ลว.31 ส.ค.2566 ติดตามเรื่องร้องเรียนการขอให้ถอดถอน พนักงานอัยการสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริตภาค จากการเป็นทนายแก้ต่างให้จำเลยที่ ๑ ถึงที่ ๙ ในคดีอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบ คดีหมายเลขดำที่ ๖๕ / ๒๕๖๕ พร้อมส่งเอกสารหลักฐานจำนวน 23 ฉบับ
หนังสือถึงอัยการสูงสุด ลว.31 ส.ค.2566
สำนักงานอัยการสูงสุด ซึ่งเป็นองค์กรตามรัฐธรรมนูญฯ มาตรา 248 มีอำนาจหน้าที่ในการอำนวยความยุติธรรม การรักษาผลประโยชน์ของรัฐ และการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชน โดยจักต้องกระทำด้วยความรวดเร็ว เท่าเทียม และเป็นธรรรม กับทั้งต้องกระทำให้เป็นที่เชื่อถือศรัทธาแก่ประชาชน ตามตามระเบียบสำนักอัยการสูงสุดว่าด้วยการดำเนินคดีอาญาของพนักงานอัยการ พ.ศ.2547 ข้อ 5 แต่การรับแก้ต่างคดีอาญาของพนักงานอัยการสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริตภาค ให้แก่จำเลยที่ 1 ถึงที่ 9 ซึ่งเป็นข้าราชการ
ในขณะที่ศาลคดีอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบภาคมีคำสั่งรับฟ้องโจทก์ไว้ไต่สวนมูลฟ้อง ย่อมแสดงให้เห็นว่ามีหลักฐานเพียงพอที่แสดงว่าจำเลยที่ 1 ถึงที่ 9 มิได้กระทำตามหน้าที่หรือกระทำการโดยชอบด้วยกฎหมายและมิได้มีการเรียกค่าเสียหายจากหน่วยงานรัฐ จึงไม่เป็นการรักษาผลประโยชน์ของแผ่นดิน
อีกทั้ง โจทก์ซึ่งเป็นราษฎรยื่นฟ้องโดยไม่มีทนาย ย่อมก่อให้เกิดความไม่เท่าเทียมและไม่เป็นธรรมที่พนักงานสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริตภาค จะเข้ามาทำหน้าที่ปกป้องผู้ทุจริตและประพฤติมิชอบ ขัดต่อ หลักการในการแก้ต่างคดีอาญ มาตรา 211 แห่งระเบียบสำนักอัยการสูงสุดว่าด้วยการดำเนินคดีอาญาของพนักงานอัยการ พ.ศ.2547 ที่ระบุว่าการใช้ดุลพินิจในการรับแก้ต่างคดีอาญาให้แก่เจ้าหน้าที่ของรัฐ ต้องเป็นไปเพื่อรักษาผลประโยชน์ของแผ่นดิน
คุ้มครองสิทธิเสรีภาพของบุคคลที่ได้กระทำไปตามหน้าที่หรือได้กระทำตามคำสั่งโดยชอบด้วยกฎหมายด้วยความสุจริต และต้องคำนึงถึงการให้ความเป็นธรรมแก่คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งด้วย แต่ต้องไม่เป็นปฏิปักษ์ต่อการดำเนินคดีอาญาของพนักงานอัยการ และขัดต่อบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญฯมาตรา 63 รัฐต้องจัดให้มาตรการและกลไกที่มีประสิทธิภาพ เพื่อป้องกันและขจัดการทุจริตและประพฤติมิชอบดังกล่าวอย่างเข้มงวด
ดังนั้น อัยการสูงสุดมีอำนาจตีความและวินิจฉัยปัญหาเกี่ยวกับการปฏิบัติตามระเบียบนี้ เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม และมิให้เป็นปฏิปักษ์ต่อการดำเนินคดีอาญาของพนักงานอัยการ จึงขอให้อัยการสูงสุดพิจารณาและวินิจฉัยปัญหาดังกล่าวว่าขัดต่อระเบียบสำนักอัยการสูงสุดว่าด้วยการดำเนินคดีอาญาของพนักงานอัยการ พ.ศ.2547 ข้อ 211 หรือไม่
กฎหมายที่เกี่ยวข้อง
อีกทั้ง ขอให้อัยการสูงสุด มีคำสั่งถอนการรับแก้ต่างคดีของพนักงานอัยการสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริตภาค ทั้งนี้ เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมและไม่เป็นปฏิปักษ์ต่อการดำเนินคดีอาญาของพนักงานอัยการ หากเห็นเป็นอย่างอื่น ใคร่ขอให้ดำเนินการแจ้งผลการพิจารณาและเหตุผลทราบโดยเร็ว หากไม่มีการแจ้งผลการดำเนินการใดๆ ภายใน 1 เดือน ย่อมถือว่าสำนักงานอัยการสูงสูด เห็นด้วยกับการรับเป็นทนายแก้ต่างคดีของสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริตภาค
ประสบการณ์ในการติดต่องานราชการหรือตัวอย่างกรณีของผู้เสียหายที่เขียนมาทั้งหมด 40 ตอนพบว่า เจ้าหน้าที่ของรัฐที่จะเพิกเฉย ไม่ดำเนินการใดๆ บางกรณีดำเนินการให้แต่ล่าช้ามาก ทำให้การติดตามเรื่องควรทำเป็นหนังสือให้มีความชัดเจนในประเด็นที่ร้องขอและกำหนดเวลา รวมทั้งผลการไม่ดำเนินการตามเวลาที่กำหนดเพื่อก่อให้เกิดสิทธิในการดำเนินการเรียกร้องความเป็นธรรมหรือดำเนินการขั้นต่อไป
ดังนั้น หนังสือติดตามเรื่องของผู้เสียหาย ระบุข้อกฎหมายที่กำหนดอำนาจหน้าที่ของอัยการสูงสุดในการตีความและวินิจฉัยวินิจฉัยปัญหาเกี่ยวกับการปฏิบัติตามระเบียบนี้ไว้ชัดเจน ระบุเวลาผลการของไม่ดำเนินการว่า “หากไม่มีการแจ้งผลการดำเนินการใดๆ ภายใน 1 เดือน ย่อมถือว่า เห็นด้วยกับการรับเป็นทนายแก้ต่างคดีของสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริตภาค” ทำให้ต้องมีการตอบเป็นหนังสือ
ถ้าเป็นเรื่องปกติสำนักงานอัยการสูงสุดต้องตอบหนังสือด้วยตนเองตามที่ระบุไว้ โดยวินิจฉัยปัญหาตามอำนาจหน้าที่ ตามพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ. 2546 มาตรา 41 แต่กรณีนี้ทางสำนักงานอัยการสูงสุดมิได้มีความเห็นต่าง จึงให้อธิบดีอัยการ สำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต ภาค เป็นผู้ตอบหนังสือ ตามระเบียบสำนักงานอัยการสูงสุดว่าด้วยการดำเนินคดีของพนักงานอัยการในคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ2562 ข้อ 21
กฎหมายที่เกี่ยวข้อง
โปรดกดติดตามเพจ
มาดูกันว่าเรื่องจะบานปลายใหญ่โตแค่ไหน กดอ่านได้ที่
เรื่องเล็กๆ...สู่ปัญหาการใช้และตีความที่ไม่เป็นธรรม บทนำ
ตอนที่ 1 ความคุ้นชินกับการกระทำผิด
ตอนที่ 2 ร้องเรียนเจ้าหน้าที่ที่ให้ความช่วยเหลือ
ตอนท่ 3 รายงานไม่ตรงกับข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น
ตอนที่ 4 การแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนขึ้นมาทำงานซ้ำซ้อน
ตอนที่ 5 การไม่ดำเนินการตามหนังสือคัดค้านและร้องเรียนเพิ่มเติม
ตอนที่ 6 ผู้ว่าราชการจังหวัดตีความว่าผู้ร้องเรียนไม่ใช่คู่กรณี
ตอนที่ 7 การร้องขอความเป็นธรรมต่อกระทรวงสาธารณสุข
ตอนที่ 8 ผลการสืบสวนข้อเท็จจริงของคณะกรรมการสืบสวนกรณีนางหนึ่ง
ตอนที่ 9 การสอบสวนวินัยรายแรงโดยมิได้ใช้ผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงของโรงพยาบาล
ตอนที่ 10 ผลที่เกิดขึ้นจากรายงานการสอบสวนวินัยร้ายแรงกรณีนางหนึ่ง
ตอนที่ 11 สำนักงานสาธารณสุขให้ความช่วยเหลือนางสอง
ตอนที่ 12 ผลการสอบวินัยกรณีนางสอง
ตอนที่ 13 ปัญหาการไม่ปฏิบัติตามคำสั่งกรณีที่ 1
ตอนที่ 14 การไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง-ชี้แจงนอกประเด็น กรณีที่ 2
ตอนที่ 15 การไม่ปฏิบัติตามคำสั่งและชี้แจงนอกประเด็น กรณีที่ 3
ตอนที่ 16 บทสรุปขั้นตอนการดำเนินการทางวินัยที่ไม่เป็นธรรม
ตอนที่ 17 ขั้นตอนการขอข้อมูลข่าวสารของทางราชการ
ตอนที่ 18 จังหวัดและสำนักงานสาธารณสุขไม่ยอมเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร
ตอนที่ 19 จังหวัดยอมเปิดเผยข้อมูลข่าวสารเพียงบางส่วน
ตอนที่ 20 นพ.สสจ.แจ้งต่อคณะกรรมการไม่ตรงกับข้อเท็จจริง
ตอนที่ 21 ผู้เสียหายทำหนังสือโต้แย้งการพิจารณาของคณะกรรมการข้อมูลข่าวสาร
ตอนที่ 22 นพ.สสจ.ชี้แจงว่า ผวจ.มิได้ทำดคำสั่งในหนังสือที่ร้องขอทั้ง 4 ฉบับ
ตอนที่ 23 คณะอนุกรรมการมีหนังสือถึงผู้สียหายตามที่จังหวัดชี้แจง
ตอนที่ 24 การตรวจสอบความีอยู่ของข้อมูลข่าวสาร
ตอนที่ 25 จังหวัดชี้แจงต่อคณะกรรมการไม่ตรงกับข้อเท็จจริง
ตอนที่ 26 ติดตามผลการตรวจสอบข้อมูลข่าวสารที่ร้องขอ
ตอนที่ 27 ผลการตรวจสอบความมีอยู่ของข้อมูลข่าวสารที่ร้องขอ
ตอนที่ 28 ขอทราบขั้นตอนการเสนอหนังสือทั้ง 5 ฉบับที่ร้องขอ
ตอนที่ 29 ปัญหาการบังคับใช้กฎหมายใยขั้นตอนการขอข้อมูลข่าวสาร
ตอนที่ 30 ปัญหาการบังคับใช้กฎหมายของหน่วยงานสาธารณสุข
ตอนที่ 31 ปัญหาการบังคับใช้กฎหมายของจังหวัด
ตอนที่ 32 ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการปฏิบัติรการของจังหวัด
ตอนที่ 33 เหตุแห่งการร้องขอความเป็นธรรมในระดับกระทรวง
ตอนที่ 34 การร้องเรียนขอความเป็นธรรมในระดับกระทรวง
ตอนที่ 35 การบังคับใช้กฎหมายในระดับกระทรวง
ตอนที่ 36 ผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงของผู้ว่าราชการจังหวัด
ตอนที่ 37 บทวิเคราะห์การบังคับใช้กฎหมายของเจ้าหน้าที่รัฐ
ตอนที่ 38 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ
ตอนที่ 39 การฟ้องคดีต่อศาลทุจริตและประพฤติมิชอบ
ตอนที่ 40 ผลของการออกหนังสือด่วนที่สุดเพื่อไต่สวนเรื่องร้องเรียนของผู้เสียหาย
ตอนที่ 41 ผู้เสียหายทำหนังสือขอถอนเรื่องร้องเรียนจากคณะกรรมการ ป.ป.ช.
ตอนที่ 42 บทวิเคราะห์การดำเนินเรื่องร้องเรียนของคณะกรรมการ ป.ป.ช.
ตอนที่ 43 อัยการเข้ามาเป็นทนายแก้ต่างให้กับจำเลยทั้ง 9 คน
ตอนที่ 44 การทำหนังสือถึงอัยการสูงสุดเพื่อติดตามเรื่อง
ตอนที่ 45 เหตุผลของอัยการในการรับเป็นทนายแก้ต่างให้จำเลย
ตอนที่ 46 ปัญหาที่เกิดขึ้นในระหว่างการฟ้องคดีต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ
ตอนที่ 47 เหตุที่คณะกรรมการ ป.ป.ช.หยิบเรื่องผู้เสียหายขึ้นมาดำเนินการด่วนที่สุด
ตอนที่ 48 จำเลยที่ 9 ได้รับการสรรหาให้ดำรงตำแหน่ง คณะกรรมการ ป.ป.ช.
ตอนที่ 49 ความไม่ชอบด้วยกฎหมายจากใบสมัครของจำเลยที่ 9
ตอนที่ 50 การตรวจสอบความประพฤติและจริยธรรมของหน่วยงานรัฐ
โฆษณา